การวิ่ง

          ประโยชน์และความเสี่ยงของการวิ่งทุกวัน









การวิจัยพบว่าการวิ่ง 5-10 นาทีต่อวัน อาจช่วยลดโอกาสในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ หัวใจวายและโรคอื่นๆ ได้ แต่ก็พบว่าจะไม่ได้รับประโยชน์มากขึ้นเมื่อวิ่งเกิน 4.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หมายความว่าไม่จำเป็นต้องวิ่งเต็มชั่วโมงทุกวันก็ได้ การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกซึ่งสามารถนำไปสู่อาการบาดเจ็บ เช่น กระดูกหักหรือเจ็บหน้าแข้ง


เราจะวิ่งแค่กี่วันจึงจะอยู่ในระดับที่ปลอดภัยนั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและระดับความฟิตของเราเอง ควรมีการจัดตารางให้มีวันที่ไม่ต้องวิ่ง ให้สลับกับการออกกำลังกายแบบอื่น การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หรือกำหนดวันพัก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและสุขภาพโดยรวมให้กับเรา และจากนี้ไปจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยงในการวิ่ง รวมไปถึงเคล็ดลับสำหรับการวิ่งทุกวัน


ประโยชน์ของการวิ่งทุกวัน

ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและอาการหัวใจวาย

ลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดและหัวใจ

ความเสี่ยงจากโรคมะเร็งลดลง

ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคทางระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน

แม้ว่าประโยชน์เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ด้วยการวิ่งเพียงเล็กน้อยในแต่ละวัน แต่นักวิจัยชาวดัตช์กลุ่มหนึ่งแนะนำให้วิ่ง 2.5 ชั่วโมง/สัปดาห์ หรือ 30 นาที 5 วัน/สัปดาห์พื่อให้ได้รับประโยชน์จากการมีชีวิตยืนยาว


นอกจากนั้น ประโยชน์ด้านอื่นๆ ของการวิ่งคือช่วยให้การนอนหลับและอารมณ์ดีขึ้น มีการวิจัยพบว่าการวิ่ง 30 นาทีโดยใช้ความเร็วปานกลางทุกเช้า 3 วัน/สัปดาห์ จะช่วยส่งเสริมด้านการนอนหลับ สภาวะอารมณ์และความสามารถในการรวบรวมสมาธิได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่วิ่ง 


เราอาจได้รับประโยชน์เช่นเดียวกันจากการออกกำลังกายในประเภทอื่น ๆ นาน 30 นาที เช่น การเดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือโยคะ


 



 

วิ่งทุกวันปลอดภัยไหม?

การวิ่งทุกวันอาจเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกายมากเกินไป ซึ่งอาการแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อออกกำลังกายมากไป เร็วไป และไม่ให้เวลาร่างกายในการปรับตัว หรือเกิดจากปัญหาทางด้านเทคนิค เช่น วิ่งโดยใช้ท่วงท่าที่ไม่ถูกต้องจนทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนทำงานหนักเกินไป มีวิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้คือ


ควรใช้ร้องเท้าวิ่งที่เหมาะสม และเปลี่ยนรองเท้าเป็นประจำ

ค่อยๆ เพิ่มระยะทางวิ่งทีละนิดในแต่ละสัปดาห์

จัดตารางวิ่งให้มีกีฬาประเภทอื่นผสมผสานด้วย เช่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ

วอร์มร่างกายก่อนออกวิ่ง และยืดกล้ามเนื้อหลังวิ่ง

ใช้ท่าวิ่งถูกต้อง

หากเพื่อนๆ ได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งให้รีบหยุดและไปหาหมอโดยทันที

และควรออกกำลังกายรูปแบบอื่น ๆ นอกเหนือจากการวิ่งเพื่อลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ ได้ใช้งานกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว ช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บโดยโดยไม่สูญเสียระดับความฟิต และเป็นการเพิ่มความหลากหลายในการออกกำลังกาย 


หากต้องการออกกำลังกายด้วยการวิ่งเป็นหลัก ก็ควรจะมีวันฝึกการออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆด้วย 1-2 วันต่อสัปดาห์ เช่นการปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ โยคะ หรือพิลาทิส และควรมีการฝึก Strength Training และ Weight Training 1-2 วัน/สัปดาห์ด้วย


 



 


วิ่งอย่างไรให้ได้ทุกวัน?

อุปกรณ์การวิ่ง

สิ่งเดียวที่ต้องมีคือรองเท้าวิ่งสักคู่หรือสองคู่ไว้สลับกัน อาจจะลงทุนซื้อเสื้อผ้ากันเหงื่อ และถ้าหากวิ่งตอนกลางคืนหรือตอนเช้ามืดก็ควรมีไฟฉายและชุดเรืองแสงเพื่อความปลอดภัย


แผนการวิ่งรายสัปดาห์

ในแต่ละสัปดาห์เราจะวิ่งมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายและระดับความฟิตของร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นนักวิ่งมือใหม่ ก็ไม่ควรเริ่มต้นด้วยการวิ่งทุกวันเพราะมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเบื่อหน่ายหรือได้รับบาดเจ็บ ควรเริ่มต้นวิ่งวันเว้นวัน  20-30 นาที หรืออาจจะเป็นโปรแกรมการวิ่งระยะทาง 5 กิโลเมตร


การหาเวลามาวิ่งทุกวันหรือหลายวันต่อสัปดาห์อาจเป็นเรื่องท้าทาย ให้ลองวิ่งในตอนเช้าก่อนก่อนออกไปทำงาน หรือหาชมรมนักวิ่งแถวบ้านเพื่อได้รับแรงสนับสนุนและให้กำลังใจกันในช่วงแรก ให้วิ่งระยะสั้นในช่วงกลางสัปดาห์ และวิ่งระยะไกลในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพราะมีเวลาเหลือเฟือ 


และหากคุณเป็นนักวิ่งที่มีประสบการณ์แล้วและวางแผนที่จะวิ่งทุกวัน สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดเวลาการฝึกซ้อมประจำสัปดาห์ที่มีความหลากหลาย


ความปลอดภัย

ให้พยายามวิ่งในสถานที่ซึ่งมีคนเยอะจะได้ปลอดภัยจากโจร ให้มองหาเส้นทางยอดนิยมไปเลย และเพื่อความปลอดภัยตอนกลางคืนควรสวมเสื้อผ้าสีสว่างหรือสะท้อนแสงให้คนขับรถมองเห็นได้ง่าย เราสามารถไปฝึกวิ่งวนรอบสนามวิ่งหรือจะฝึก Speedwork ในลานวิ่งไปเลยก็ได้ หากไปวิ่งเทรลก็ต้องคอยระวังกิ่งไม้ตามเส้นทางให้ดีๆ


การยืดกล้ามเนื้อ

ไม่จำเป็นต้องยืดกล้ามเนื้อก่อนการวิ่งทุกครั้งไป ให้เราเดินและวิ่งจ๊อกกิ้งช้าๆ เพื่อวอร์มอัพ จบการวิ่งเมื่อไหร่ค่อยยืดกล้ามเนื้อ


 


โดยสรุปแล้วการวิ่งเพียงไม่กี่นาทีต่อวันสามารถมีประโยชน์ต่อสุขภาพได้ การวิจัยพบว่าอาจทำให้เราอายุยืนมากขึ้น แต่ถามว่าเราจำเป็นต้องวิ่งทุกวันหรือไม่? ก็ตอบได้เลยว่า “ไม่จำเป็น” เพราะแม้แต่นักวิ่งอาชีพยังต้องมีวันพักเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว และมีวันที่หยุดวิ่งและไปออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆผสมผสานกันไป


หากเพื่อนๆ ไม่แน่ใจว่าออกกำลังกายบ่อยแค่ไหนถึงจะปลอดภัย ก็ให้ไปลองปรึกษาแพทย์หรือผู้ชำนาญการเพื่อความมั่นใจ และสามารถแนะนำโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายที่เหมาะสมกับอายุและระดับความฟิตของคุณได้

Comments

Popular Posts